สปริงแม่พิมพ์ หรือ Die Spring
เป็นสปริงชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในแม่พิมพ์ปั๊มโลหะ แม่พิมพ์พลาสติก หรือแม่พิมพ์หล่อ
สปริงเหล่านี้มีความแข็งแรง ทนทาน ทนความร้อนสูง และสามารถรับแรงกดได้มาก
สปริงแม่พิมพ์มี 5 แบบ หลักๆ แบ่งตามแรงกดที่สามารถรับได้ ดังนี้
- สปริงแรงกดน้อยมาก (Lightest Load) สีเหลือง (DF) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดน้อย เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็ก
- สปริงแรงกดเบา (Light Load) สีน้ำเงิน (DL) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดเบาถึงปานกลาง เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนโลหะแผ่นบาง ชิ้นส่วนยาง
- สปริงแรงกดปานกลาง (Medium Load) สีแดง (DM) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดปานกลางถึงมาก เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนโลหะหนา ชิ้นส่วนยางแข็ง
- สปริงแรงกดมาก (Heavy Load) สีเขียวเข้ม (DH) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดสูงมาก เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนโลหะหนามาก ชิ้นส่วนที่มีแรงกระแทกสูง
- สปริงแรงกดมากพิเศษ (Extra Heavy Load) สีน้ำตาล (DS) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดสูงที่สุด เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนโลหะหนามาก ชิ้นส่วนที่มีแรงกระแทกสูงมาก
รับผลิตสปริงแม่พิมพ์ สั่งทำสปริงแม่พิมพ์
สามารถสั่งทำได้รวดเร็ว แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน
เพียงโทรมาที่ 02-892-1006, 087-932-4334
หรือ Add line ID : @futai688
การทำงานของสปริงแม่พิมพ์แต่ละแบบ
สปริงแม่พิมพ์จะทำงานโดยการเก็บพลังงานกลในรูปแบบของแรงดัน
เมื่อถูกกดสปริงจะยุบตัวลง พลังงานกลจะถูกเก็บไว้ เมื่อปล่อยสปริงจะคลายตัวออก พลังงานกลจะถูกปลดปล่อยออกมาในรูปแบบของแรงผลัก ดันชิ้นงานออกจากแม่พิมพ์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานของสปริงแม่พิมพ์ ได้แก่
- ชนิดของสปริง สปริงแต่ละชนิดมีแรงกดและระยะยุบตัวที่แตกต่างกัน
- ขนาดของสปริง สปริงที่มีขนาดใหญ่จะรับแรงกดได้มากกว่า
- วัสดุของสปริง สปริงที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงจะทนทานต่อการใช้งาน
- อุณหภูมิ อุณหภูมิที่สูงจะทำให้แรงกดของสปริงลดลง
- การสึกหรอ การใช้งานสปริงเป็นเวลานานจะทำให้สปริงเสื่อมสภาพ
การเลือกใช้สปริงแม่พิมพ์
- เลือกชนิดของสปริงให้เหมาะสมกับงาน
- เลือกขนาดของสปริงให้เหมาะสมกับแรงกดที่ต้องการ
- เลือกวัสดุของสปริงให้ทนทานต่อการใช้งาน
- เลือกสปริงที่ทนต่ออุณหภูมิที่ใช้งาน
- ตรวจสอบสปริงให้อยู่ในสภาพดี
แสดงทั้งหมด 9 ผลลัพท์