สปริงสีเหลือง

สปริงสีเหลือง
สปริงแม่พิมพ์ สีเหลือง รับน้ำหนักเบาสุด 
ปริงขดสปริงแม่พิมพ์ ออกแบบมาสำหรับแม่พิมพ์ปั๊ม แข็งแรงและอายุการใช้งานสูง สามารถนำไปใช้ร่วมกับงานอื่นๆได้เช่น ใช้ในเครื่องจักรต่างๆ

สปริงแม่พิมพ์สีเหลือง
ที่มีคุณสมบัติ Lightest Load คือสปริงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแรงที่ต่ำที่สุดในบรรดาสปริงแม่พิมพ์สีต่าง ๆ สปริง
แม่พิมพ์สีเหลืองนี้มีความยืดหยุ่นสูงและเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการรองรับแรงน้อย ๆ และต้องการการยึดหยุ่นสูง

คุณสมบัติและการใช้งานของสปริงแม่พิมพ์สีเหลือง (Lightest Loลd)
1.คุณสมบัติ
ㆍ คำความแข็งต่ำที่สุด (Lightest Load): สปริงแม่พิมพ์สีเหลืองมีค่าความแข็งที่ต่ำที่สุด ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงสุดในบรรดาสปริงแม่พิมพ์สีต่าง ๆ
ㆍ วัสคุณภาพสูง: ทำจากเหล็กกล้าคาร์บอนสูงหรือเหล็กอัลลอยที่มีความทนทานต่อการล้าและการเสียรูป
ㆍ การเคลือบผิว: มีการเคลือบผิวเพื่อป้องกันการกัดกร่อนและเพิ่มความทนทาน
2.การใช้งาน
ㆍ แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกขนาดเล็กมาก ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่มีขนาดเล็กมากและต้องการแรงฉีดที่น้อย
ㆍ แม่พิมพ์โลหะเบาและบาง :ใช้ในงานขึ้ปโลหะที่บางมากและไม่ต้องการการรับแรงสูง เช่น การตัดโลหะบางการปั๊มโลหะเบา และการดัดโลหะบาง
ㆍ เครื่องจักรอุตสาหกรรมเบา : ใช้ในเครื่องจักรที่ต้องการการรองรับแรงต่ำและความยึดหยุ่นสูง เช่น เครื่องจักร
ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องจักรงานเบาอื่น ๆ
ㆍ การผลิตชิ้นส่วนที่มีความละเอียดอ่อนและบอบบาง :ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความละเอียดอ่อนและบอบบาง เช่น ชิ้นส่วนเครื่องไข้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือชิ้นส่วนทางการแพทย์

สปริงแม่พิมพ์สีเหลืองที่มีค่าความแข็งต้าที่สุด (Lightest Load) เหมาะสำหรับการใช้งานในแม่แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกขนาด
เล็กมาก แม่พิมพ์โลทะเบาและบาง เครื่องจักรอุตสาหกรรมเบา และการผลิตชิ้นส่วนที่มีความละเอียดอ่อนและบอบาง
ด้วยคุณสมบัติที่มีความยึดหยุ่นสูงและสามารถรองรับแรงที่ต่ำมาก สปริงสีเหลืองจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความ
แม่นยำในการทำงานของแม่พิมพ์และเครื่องจักรได้อย่างดี

สปริงแม่พิมพ์ หรือ Die Spring

เป็นสปริงชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในแม่พิมพ์ปั๊มโลหะ แม่พิมพ์พลาสติก หรือแม่พิมพ์หล่อ
สปริงแม่พิมพ์ เหล่านี้มีความแข็งแรง ทนทาน ทนความร้อนสูง และสามารถรับแรงกดได้มาก หากต้องการใช้สปริงแม่พิมพ์แบบไหน ขนาดเท่าไร สามารถโทรมาสอบถามเราก่อนได้ เราสามารถให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดีเพื่อการใช้งานได้อย่างถูกต้อง


สปริงแม่พิมพ์แบบต่างๆ แบ่งตามแรงกดที่สามารถรับได้ ดังนี้

สปริงแม่พิมพ์สีเหลือง (TF) แรงกดน้อยมาก (Lightest Load)
คุณสมบัติ แรงดันปานกลาง ความแข็งแรงสูง สามารถรับแรงกดได้น้อย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดน้อย เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็ก

2. สปริงแม่พิมพ์สีน้ำเงิน (TL) แรงกดเบา (Light Load)
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดเบาถึงปานกลาง เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนโลหะแผ่นบาง ชิ้นส่วนยาง และยังใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความแม่นยำและละเอียดอ่อน เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก หรือชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานที่ต้องการการคืนตัวสูงและแรงกดที่ไม่สูงมาก เช่น การผลิตของใช้ประจำวันหรือชิ้นส่วนของเครื่องจักรขนาดเล็ก

3. สปริงแม่พิมพ์สีแดง (TM) แรงกดปานกลาง (Medium Load)
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดปานกลางถึงมาก เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนโลหะหนา ชิ้นส่วนยางแข็ง และการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนปานกลาง เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือชิ้นส่วนยานยนต์ทั่วไป
งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความสมดุลระหว่างแรงดันและความยืดหยุ่น เช่น การผลิตชิ้นส่วนพลาสติกหรืออะลูมิเนียมบางส่วน

4. สปริงแม่พิมพ์สีเขียวเข้ม (TH) แรงกดมาก (Heavy Load)
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดสูงมาก เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนโลหะหนามาก ชิ้นส่วนที่มีแรงกระแทกสูง การผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ต้องการความแม่นยำและความทนทาน

5. สปริงแม่พิมพ์สีน้ำตาล (TB) แรงกดมากพิเศษ (Extra Heavy Load)
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกดสูงที่สุด เช่น งานปั๊มชิ้นส่วนโลหะหนามาก ชิ้นส่วนที่มีแรงกระแทกสูงมาก การปั๊มเหล็กหนา การขึ้นรูปวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง เช่น อะลูมิเนียมหรือโลหะหนัก


การทำงานของสปริงแม่พิมพ์แต่ละแบบ
สปริงแม่พิมพ์จะทำงานโดยการเก็บพลังงานกลในรูปแบบของแรงดัน
เมื่อถูกกดสปริงจะยุบตัวลง พลังงานกลจะถูกเก็บไว้ เมื่อปล่อยสปริงจะคลายตัวออก พลังงานกลจะถูกปลดปล่อยออกมาในรูปแบบของแรงผลัก ดันชิ้นงานออกจากแม่พิมพ์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานของสปริงแม่พิมพ์ ได้แก่

• ชนิดของสปริง สปริงแต่ละชนิดมีแรงกดและระยะยุบตัวที่แตกต่างกัน
  
• ขนาดของสปริง สปริงที่มีขนาดใหญ่จะรับแรงกดได้มากกว่า
  
• วัสดุของสปริง สปริงที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงจะทนทานต่อการใช้งาน
  
• อุณหภูมิ อุณหภูมิที่สูงจะทำให้แรงกดของสปริงลดลง
  
• การสึกหรอ การใช้งานสปริงเป็นเวลานานจะทำให้สปริงเสื่อมสภาพ
  

การเลือกใช้สปริงแม่พิมพ์

• เลือกชนิดของสปริงให้เหมาะสมกับงาน
  
• เลือกขนาดของสปริงให้เหมาะสมกับแรงกดที่ต้องการ
  
• เลือกวัสดุของสปริงให้ทนทานต่อการใช้งาน
  
• เลือกสปริงที่ทนต่ออุณหภูมิที่ใช้งาน
  
• ตรวจสอบสปริงให้อยู่ในสภาพดี

การใช้งานสปริงแม่พิมพ์ในกระบวนการผลิต

• สปริงแม่พิมพ์มีบทบาทสำคัญในกระบวนการผลิตหลายประการ ดังนี้
  
• สปริงในการปั๊ม (Stamping) ในกระบวนการปั๊ม สปริงแม่พิมพ์ช่วยให้แม่พิมพ์กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมหลังจากที่ทำการปั๊มเสร็จสิ้น ทำให้สามารถทำการปั๊มครั้งต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ
  
• สปริงใช้การฉีด (Injection Molding) สปริงแม่พิมพ์ช่วยให้แม่พิมพ์สามารถปิดและเปิดได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกครั้งที่มีการฉีดพลาสติกหรือวัสดุอื่น ๆ เข้าสู่แม่พิมพ์
  
• สปริงใช้งานขึ้นรูป (Forming) ในกระบวนการขึ้นรูป สปริงแม่พิมพ์ช่วยให้วัสดุที่ถูกขึ้นรูปมีความแม่นยำและคงรูปตามที่ต้องการ